วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

19.ซามอยด์ (Samoyed)

                                        

ลักษณะทั่วไป
       โดยธรรมชาติแล้ว ซามอยด์เป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน มีความแข็งแรง กระตือรือร้นและตื่นตัว ดูแตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกออกจะสวยและสง่างาม ขนหนาเหมาะกับอากาศหนาว สีขนมีทั้งสีขาวบริสุทธิ์ สีขาวผสมขนมปังกรอบ สีครีม หรือสีขนมปังกรอบ ซามอยด์เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีริมฝีปากดำ หยักนิดๆ ที่มุมปาก จนได้รับขนานนาม “รอยยิ้มซามอยด์” ซามอยด์เพศผู้จะมีช่วงหลังไม่ยาวนักเพราะความยาวที่มากจะทำให้หลังอ่อนแอ บาดเจ็บได้ง่าย แล้วด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงไม่ค่อยเหมาะกับการทำงานที่หนักหน่วงจนเกินไป แต่สำหรับเพศเมียช่วงหลังจะยาวกว่าเพศผู้นิดหน่อย พวกเขามีความสามารถทั้งในเรื่องของการลากเลื่อน การจูงลากดึงของที่มีน้ำหนัก ต้อนสัตว์ หรือแม้แต่แบกของให้แต่นักไต่เขา มีอายุได้ถึง 12-14 ปี
ลักษณะนิสัย
       ซามอยด์เป็นสุนัขที่มีความฉลาด อ่อนโยน เชื่อฟัง ซื่อสัตย์ เป็นมิตร กระตือรือร้น ปรับตัวง่าย พร้อมที่จะรับใช้เจ้าของ รักที่จะอยู่กับครอบครัวมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ต้องการความรักและการเอาใจใส่จากมนุษย์เป็นพิเศษ เข้ากันได้ดีกับเด็กๆ สามารถเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิต แต่เนื่องจาก ได้รับมรดกตกทอดจากเชื้อสายสุนัขใช้งาน พวกเขาจึงต้องคิดหา สร้างสรรค์กิจกกรมที่ทำให้เขาเพลิดเพลินด้วยตัวเอง เช่น ไล่จับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะสิ่งของ หนู หรือแมว อะไรก็ตามที่ตัวเล็กๆ ชอบวิ่ง และชอบเห่า เพื่อเป็นหนทางในการปลอดปล่อยพลังงาน แทนการทำงานหรือกิจกรรมหนักๆที่พวกเขาไม่ได้ทำ
 การดูแล
      การทำความสะอาดซามอยด์ควรอาบน้ำให้ประมาณเดือนละครั้ง ไม่ควรอาบบ่อยจนเกินไป เพราะจะล้างน้ำมันที่ขนและผิวหนังซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติออกไป ทำให้ผิวแห้งและก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมา ขนของพวกเขา มักจะพันกันยุ่งเหยิง ควรแปรงขนเป็นประจำทุกสัปดาห์ และแปรงบ่อยครั้งขึ้นช่วงฤดูผลัดขน
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ซามอยด์เป็นสุนัขที่มีไว้ใช้งาน เมื่อนำมาเลี้ยงตามบ้าน จึงมีพลังงานเหลือเฟือ ดังนั้นการออกกำลังกายทุกวันเป็นประจำจึงจำเป็นมากๆ สำหรับพวกเขา เพื่อเผาผลาญพลังงาน เพราะถ้าพวกเขารู้สึกเบื่อหน่าย จะเกิดอาการพาล อารมณ์ไม่ดี วิ่งไปมา หรือเห่า อาจถึงขั้นทำลายข้าวของ เช่นเดียวกับเวลาที่เขาเกิดความวิตกกังวลกระวนกระวาย จึงควรพาเขาไปวิ่งหรือออกกำลังกายในพื้นที่กว้างๆ เช่นสนามหญ้าหรือสวนสาธารณะ แต่ซามอยด์ค่อนข้างตื่นตระหนกได้ง่าย และชอบเห่า จึงไม่ควรพาเขาออกไปอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน
ซามอยด์ต้องการความรักและต้องการอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงไม่ควรทิ้งเขาให้อยู่บ้านตัวเดียว พวกเขาไม่สามารถอยู่ได้ตามลำพังนานจนเกินไป

18.เชา เชา (Chow Chow)

                                           

ลักษณะทั่วไป

         เชาเชาเป็นสุนัขที่มีพละกำลังเยอะมาก คล่องแคล่วว่องไวและตื่นตัวอยู่เสมอ มีขนหนาแน่นโดยเฉพาะที่รอบคอ ขนมีความมันวาวเป็นประกาย ทำให้ดูมีความสง่างามและมีความเป็นธรรมชาติ หน้าตาดุดัน ออกจะวางท่าสุขุมพอสมควร

 ลักษณะนิสัย

          เป็นสุนัขที่มีความเฉลียวฉลาด มีการตัดสินใจที่ดี รักสงบและความอิสระ ที่สำคัญเชาเชาชอบวางท่าสุขุมเป็นผู้ดี มีความสามารถในการดมกลิ่นเป็นเลิศ อารมณ์ดี รักอิสระและซื่อสัตย์มาก และชอบเล่นกับคนในครอบครัวมากกว่าคนแปลกหน้า

 การดูแล

       เรื่องของความสะอาด ผู้เลี้ยงควรหมั่นอาบน้ำให้บ่อยๆ เพราะเป็นเชาเชาเป็นสุนัขที่รักความสะอาดมาก การแปรงและหวีขนเป็นประจำเพื่อทำให้ขนดูสวยอยู่เสมอ และช่วยป้องกันไม่ให้ในบ้านไม่เต็มไปด้วยขน ที่เกิดจากการผลัดขนของสุนัข ... ในเรื่องของสุขภาพผู้เลี้ยงจะต้องมีเวลาพาเชาเชา ไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ผู้เลี้ยงยังต้องหมั่นดูและเรื่องสุขภาพผิวหนังของสุนัข เนื่องจากสุนัขเชาเชามีโรคประจำตัวคือผิวหนังอักเสบ มีน้ำเหลืองเยิ้ม กระดูกข้อต่อของช่วงขาไม่แข็งแรง และการม้วนกลับของหนังตา ทำให้ขนตากลับไปทิ่มแทงลูกตา แต่ก็สามารถแก้ไขโดยการผ่าตัด

17.ชิสุ (Shih-Tzu)

                                         

ลักษณะทั่วไป

       ชิสุเป็นสุนัขที่แข็งแรง ร่าเริง กระตือรือร้น บรรพบุรุษเป็นสุนัขของชนชั้นสูงในจีน จึงมีลักษณะสง่างาม หัวเชิด หางโค้งงอมาถึงหลัง ถึงแม้จะมีขนาดแตกต่างกันแต่โดยทั่วไปชิสุจะต้องตัวเล็กกะทัดรัด กระนั้นก็ไม่ถึงกับบอบบาง ต้องมีสุขภาพดีและมีโครงสร้างที่ได้มาตรฐาน

ลักษณะนิสัย

       ปกติชิสุจะมีนิสัย ดุ เห่าเก่งมากและดังมากดูจะเป็นสุนัขอารมณ์ศิลปินซะด้วย หลายครั้งที่พบว่ามันจะไม่เชื่อฟังเจ้าของถ้ามันไม่อยากทำซะอย่าง ขี้ประจบ ตื่นตัว รักษาสะอาด เป็นมิตร ทำให้ปรับตัวได้ดี ชิสุชอบวิ่งและรักความสนุกซึ่งเจ้าของจำเป็นจะต้องพามันออกไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง

การดูแล

      ชิสุเป็นสุนัขที่เหมาะจะเลี้ยงไว้ในบ้าน ผู้เลี้ยงควรจูงเขาเดินเล่นเป็นประจำวัน ควรอาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และเป่าขนให้แห้งทันทีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ กำจัดเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อขนของชิสุ ยาว ผู้เลี้ยงควรพาไปตัดแต่งขนและดเล็บอย่งสม่ำเสมอ ส่วนอาหารนั้นผู้เลี้ยงควรให้อาหาร 2 ครั้งต่อวัน ควรให้อาหารตรงเวลา และอาหารที่ให้ควรเป็นอาหารเม็ดมากกว่าอาหารกระป๋อง เพราะชิสุมีขนยาว หากให้กินอาหารกระป๋องจะทำให้เลอะและมีกลิ่นปากได้ด้านการดูแลสุขภาพผู้เลี้ยงควรพาชิสุไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคสุนัขบ้าและวัคซีนอื่นๆ ตามตารางที่สัตว์แพทย์ได้กำหนด และควรดูแลสุนัขอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้อยู่ในบ้านตัวเดียวนานๆ เพราะสุนัขอาจมีอาการซึมเศร้าได้

16.ชิวาวา (Chihuahua)

                                           

ลักษณะทั่วไป

       ชิวาวา เป็นสุนัขขนาดเล็ก ถือว่าตัวเล็กที่สุดในโลก!! หูมีขนาดใหญ่ ดวงตากลมโต เหมาะที่จะใช้เลี้ยงเป็นเพื่อน ชอบออกไปเดินเล่นกับเจ้าของ เห่าเสียงดัง ค่อนข้างติดเจ้าของและไม่ทำลายข้าวของ

ลักษณะนิสัย

     ชิวาวาเป็นสุนัขมีความฉลาดและจงรักภักดีต่อเจ้าของมา กเมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ โดยปกติมักเป็นสุนัขที่เงียบสงบไม่ค่อยเห่าส่งเสียงร บกวน เว้นแต่จะถูกรบกวนหรือทำตกใจจึงจะเห่าเพื่อรักษาที่อ ยู่อาศัยของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีนิสัยกล้าหาญมักจะยืนหยัดต่อสู้กับสุนัขตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กกว่า แต่ก็มีอัธยาศัยที่ดีกับสุนัขตัวอื่นหรือสัตว์เลี้ยง ชนิดอื่นๆ

การดูแล

      วงอายุที่ต้องการเอาใจใส่มากที่สุดในการเลี้ยงชิวาวาเพราะสุนัขจะตายมากที่สุดคือช่วงอายุระหว่าง 2-3 เดือน เนื่องจากวัยนี้เป็นช่วงที่สุนัขเพิ่งเริ่มอดนมใหม่ๆ ซึ่งหากลูกสุนัขกินอาหารอะไรที่ผิดไปเพียงนิดเดียว ก็จะส่งผลให้สุนัขท้องเสียได้ โดยถ้าสุนัขตัวไหนไม่มีภูมิต้านทานได้รับเชื้อก็อาจจะถึงตายได้เหมือนกัน แต่หลังจากช่วงอายุ 2-3 เดือนไปแล้ว ก็สามารถที่จะเอาใจใส่น้อยลงได้

แล้ววิธีสังเกตง่ายๆ ว่าสุนัขมีอาการผิดปกตินั้นให้สังเกตจากการที่สุนัขไม่ค่อยกินข้าวหรือกินข้าวน้อยลงก็ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าสุนัขกำลังจะไม่สบาย และส่วนการให้อาหารนั้นผู้เลี้ยงสามารถเลือกซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปที่มีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดมาให้กับสุนัขกินได้เพียงแต่เลือกให้เหมาะสมกับสุนัขเท่านั้น

ในเรื่องของการออกกำลังกาย ผู้เลี้ยงสามารถปล่อยให้ชิวาวาไปออกกำลังกายได้เองภายในสวนหรือพื้นที่จำกัด แต่ชิวาวาชอบที่จะออกไปเล่นกับเจ้าของมากกว่า

ส่วนเรื่องสุขภาพนั้นโรคที่จะเกิดขึ้นกับชิวาวาก็จะเหมือนกับสุนัขพันธุ์อื่นทั่วๆ ไป ซึ่งโรคที่พบบ่อยคือ โรคลำไส้อักเสบกับไข้หัด สาเหตุของโรคทั้งสองเป็นโรคติดต่อซึ่งหากสุนัขตัวไหนไม่มีการฉีดวัคซีนแล้วไปถูกเชื้อเข้าก็จะติดต่อได้

15.ชิบะ อินุ (Shiba Inu)

                                      

 ลักษณะทั่วไป
         ชิบะอินุเป็นสุนัขพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด เป็นสุนัขในตระกูลเดียวกันกับพันธุ์อะคิตะ (Akita) รูปร่างกระทัดรัด หูตั้ง กล้ามเนื้อกระชับ ขนสั้น 2 ชั้น มีทั้งสีดำผสมสีน้ำตาล สีแดง หรือ สีงาแดง ดวงตาสดใสและรูปริมฝีปากโค้งเหมือนกับกำลังยิ้ม ชิบะอินุ เป็นสุนัขอารมณ์ดี เป็นมิตร ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม มีอายุเฉลี่ยประมาณ 12-15 ปี แต่มีสายพันธุ์ ชิบะ ปูสุเกะ (Shiba Pusuke) ซึ่งได้รับการออกกำลังอย่างเป็นกระจำจนร่างกายแข็งแรง สามารถอยู่ได้ยืนยาวถึง 26 ปี

 ลักษณะนิสัย

        ชิบะ อินุ เป็นสุนัขที่ร่าเริงแจ่มใส คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ว่องไว ขี้เล่น ฉลาด รักอิสระซื่อสัตย์ กล้าหาญ ใจดี อ่อนโยน รักและผูกพันกับสมาชิกในครอบครัวมากๆ และเป็นมิตรที่ดีกับเด็กๆ พวกเขาเข้ากับคนแปลกหน้าและสัตว์อื่นๆ ให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างดีเยี่ยม ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่รักการเข้าสังคมมากที่สุดพันธุ์หนึ่ง แต่ด้วยสายเลือดนักล่า พวกเขาจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับหนู หรือกระต่ายเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามชิบะ อินุ มีข้อเสียก็ตรงค่อนข้างเอาแต่ใจโดยเฉพาะ ขณะฝึกวินัย บางครั้งถึงกับทำให้เจ้าของปวดหัวกับอาการดื้อของพวกเขา ดังนั้นต้องฝึกฝนพวกเขาเป็นประจำอย่างอดทน

 การดูแล

     ชิบะ อินุ เป็นสุนัขขนสั้น หนา ง่ายต่อการดูแลรักษา ผู้เลี้ยงควรแปรงขนให้เขาเป็นประจำ เพื่อแปรงเอาขนที่หลุดล่วงออก ส่วนการอาบน้ำควรอาบให้อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ซึ่งปกติแล้วพวกเขาจะถูกเลี้ยงไว้อยู่ในบ้าน จึงไม่สกปรกมาก การอาบน้ำให้แต่ละครั้งมักมีจุดประสงค์เพื่อชำละล้างชั้นขนที่หลุดล่วงตามฤดูกาล นอกจากขนที่ผู้เลี้ยงต้องดูแลแล้ว ฟันก็ควรได้รับการดูแลให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้พวกเขามีฟันไว้บดเคี้ยวอาหารให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ส่วนการดูแลช่องหู ควรใช้น้ำมัน (Baby oil) และสำลีทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อในช่องหู เป็นสาเหตุของหูอักเสบ หรือเกิดการทำลายหูชั้นใน
ในส่วนของการออกกำลังกาย ควรพาเขาออกไปเดินหรือวิ่งเล่นเป็นประจำทุกวัน แต่ควรให้ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะไม่หักโหมจนเกินไป เพราะโดยปกติแล้วชิบะ อินุเป็นสุนัขที่มีความตื่นตัวอยู่ตลอด สามารถวิ่งเล่น ออกกำลังกายด้วยตัวของมันเอง เพียงแต่การพาไปออกกำลังร่วมกับเจ้าของ เป็นเสมือนการฝึกวินัย และสร้างความผูกพันต่อเจ้าของไปด้วยในตัว

14.ชาเป่ย (Sharpei)

                                           

ลักษณะทั่วไป

        ชาเป่ยเป็นสุนัขขนาดกลาง รูปร่างคล้ายกับฮิปโปโปเตมัส ขนสั้น ลักษณะภายนอกที่เห็นแล้วระบุได้ชัดเจนว่า “เจ้าคือชาเป่ย” ก็คือหนังยับๆย่นๆ ปกคลุมบริเวณส่วนศีรษะและลำคอ แต่รอบย่นพวกนี้จะหายไปเมื่อมีอายุมากขึ้น
ลักษณะนิสัย
        ชาเป่ยเป็นสุนัขที่ฉลาดและค่อนข้างมีมาดพอสมควร ดูสุขุม นิ่งๆ ไม่ค่อยเป็นทั้งมิตรกับคนแปลกหน้าและสุนัขตัวอื่นๆ แต่มีความซื่อสัตย์กับเจ้าของสุดๆ และที่สำคัญชาเป่ยมีความสามารถในการเฝ้าบ้านเป็นอย่างมาก เชื่อฟังคำสั่งและชอบประจบเจ้าของ ไม่ชอบใช้ความรุนแรงหรือคอยหาเรื่องกับสุนัขตัวอื่น แต่จะสู้ไม่ถอยเมื่อโดนรังแก

 การดูแล

       ในเรื่องของการให้อาหารนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ผสมสีสังเคราะห์ (ไม่ใช่สีผสมอาหาร) วัตถุกันเสียและเนื้อแดง หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวโพดและถั่วเหลือง เพราะอาจทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ส่วนในเรื่องของความสะอาดนั้น สุนัขชาเป่ยเป็นสุนัขที่ต้องการความสะอาดเป็นอย่างมาก เพราะชาเป่ยมีเหงื่อเยอะต้องหมั่นอาบน้ำให้สะอาดอยู่เสมอๆ และต้องคอยดูแลเรื่องการสะสมของสิ่งสกปรกในหูที่จะทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกการที่จะเลี้ยงสุนัขชาเป่ยให้มีสุขภาพดีได้นั้น ผู้เลี้ยงจะต้องพาไปฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ดูแลเรื่องเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอค่ะ

13.ชเนาเซอร์ (Schnauzer)

                          

ลักษณะทั่วไป


        ชเนาเซอร์มีถึง 3 สายพันธุ์ คือ ไจแอนท์ ชเนาเซอร์ สแตนดาร์ดชเนาเซอร์ และ มินิชเนาเซอร์ เป็นสุนัขที่มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือ มีคิ้ว มีหนวด ดูน่าเกรงขามและดุ แต่ตรงกันข้ามเป็นสุนัขที่รักบ้าน และเจ้าของมากๆ เป็นมิตรกับคนด้วยโดยเฉพาะ
เด็กๆ

ลักษณะนิสัย

      เป็นสุนัขที่ฉลาด กระฉับกระเฉง ว่องไว สนใจและสำรวจสภาพแวดล้อมของมันอยู่เสมอ มีความรักให้กับครอบครัวผู้เลี้ยงและชอบอยู่กับคนที่สุด มีความซื่อสัตย์จงรักภักดี ไม่ก้าวร้าว มีสัญชาตญาณความปลอดภัยดี หากพบคนแปลกหน้ามันจะไม่สน ผู้เลี้ยงจึงควรแนะนำผู้มาเยี่ยมให้มันรู้จัก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับพื้นฐานการเลี้ยงจากเจ้าของ เพราะนิสัยของแต่ละตัวก็จะย่อมแตกต่างกันไป

 การดูแล

       สุนัขพันธุ์ชเนาเซอร์นั้น ไม่ค่อยมีปัญหาในการดูแลอะไรมาก เพราะเป็นสุนัขทอดทนและแข็งแรง แต่สิ่งที่ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอคือ เรื่องของความสะอาด ผู้เลี้ยงจะต้องอาบน้ำให้สุนัขอาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยแชมพูที่ใช้นั้นควรจะใช้ของสุนัข โดยเฉพาะและมีความอ่อนโยนต่อผิว ควรแปรงขนอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง อาจมีตัดขนได้บ้าง หากไม่ต้องการให้มีเยอะมากเกินไป