วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

19.ซามอยด์ (Samoyed)

                                        

ลักษณะทั่วไป
       โดยธรรมชาติแล้ว ซามอยด์เป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน มีความแข็งแรง กระตือรือร้นและตื่นตัว ดูแตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกออกจะสวยและสง่างาม ขนหนาเหมาะกับอากาศหนาว สีขนมีทั้งสีขาวบริสุทธิ์ สีขาวผสมขนมปังกรอบ สีครีม หรือสีขนมปังกรอบ ซามอยด์เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีริมฝีปากดำ หยักนิดๆ ที่มุมปาก จนได้รับขนานนาม “รอยยิ้มซามอยด์” ซามอยด์เพศผู้จะมีช่วงหลังไม่ยาวนักเพราะความยาวที่มากจะทำให้หลังอ่อนแอ บาดเจ็บได้ง่าย แล้วด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงไม่ค่อยเหมาะกับการทำงานที่หนักหน่วงจนเกินไป แต่สำหรับเพศเมียช่วงหลังจะยาวกว่าเพศผู้นิดหน่อย พวกเขามีความสามารถทั้งในเรื่องของการลากเลื่อน การจูงลากดึงของที่มีน้ำหนัก ต้อนสัตว์ หรือแม้แต่แบกของให้แต่นักไต่เขา มีอายุได้ถึง 12-14 ปี
ลักษณะนิสัย
       ซามอยด์เป็นสุนัขที่มีความฉลาด อ่อนโยน เชื่อฟัง ซื่อสัตย์ เป็นมิตร กระตือรือร้น ปรับตัวง่าย พร้อมที่จะรับใช้เจ้าของ รักที่จะอยู่กับครอบครัวมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ต้องการความรักและการเอาใจใส่จากมนุษย์เป็นพิเศษ เข้ากันได้ดีกับเด็กๆ สามารถเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิต แต่เนื่องจาก ได้รับมรดกตกทอดจากเชื้อสายสุนัขใช้งาน พวกเขาจึงต้องคิดหา สร้างสรรค์กิจกกรมที่ทำให้เขาเพลิดเพลินด้วยตัวเอง เช่น ไล่จับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะสิ่งของ หนู หรือแมว อะไรก็ตามที่ตัวเล็กๆ ชอบวิ่ง และชอบเห่า เพื่อเป็นหนทางในการปลอดปล่อยพลังงาน แทนการทำงานหรือกิจกรรมหนักๆที่พวกเขาไม่ได้ทำ
 การดูแล
      การทำความสะอาดซามอยด์ควรอาบน้ำให้ประมาณเดือนละครั้ง ไม่ควรอาบบ่อยจนเกินไป เพราะจะล้างน้ำมันที่ขนและผิวหนังซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติออกไป ทำให้ผิวแห้งและก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมา ขนของพวกเขา มักจะพันกันยุ่งเหยิง ควรแปรงขนเป็นประจำทุกสัปดาห์ และแปรงบ่อยครั้งขึ้นช่วงฤดูผลัดขน
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ซามอยด์เป็นสุนัขที่มีไว้ใช้งาน เมื่อนำมาเลี้ยงตามบ้าน จึงมีพลังงานเหลือเฟือ ดังนั้นการออกกำลังกายทุกวันเป็นประจำจึงจำเป็นมากๆ สำหรับพวกเขา เพื่อเผาผลาญพลังงาน เพราะถ้าพวกเขารู้สึกเบื่อหน่าย จะเกิดอาการพาล อารมณ์ไม่ดี วิ่งไปมา หรือเห่า อาจถึงขั้นทำลายข้าวของ เช่นเดียวกับเวลาที่เขาเกิดความวิตกกังวลกระวนกระวาย จึงควรพาเขาไปวิ่งหรือออกกำลังกายในพื้นที่กว้างๆ เช่นสนามหญ้าหรือสวนสาธารณะ แต่ซามอยด์ค่อนข้างตื่นตระหนกได้ง่าย และชอบเห่า จึงไม่ควรพาเขาออกไปอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน
ซามอยด์ต้องการความรักและต้องการอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงไม่ควรทิ้งเขาให้อยู่บ้านตัวเดียว พวกเขาไม่สามารถอยู่ได้ตามลำพังนานจนเกินไป

18.เชา เชา (Chow Chow)

                                           

ลักษณะทั่วไป

         เชาเชาเป็นสุนัขที่มีพละกำลังเยอะมาก คล่องแคล่วว่องไวและตื่นตัวอยู่เสมอ มีขนหนาแน่นโดยเฉพาะที่รอบคอ ขนมีความมันวาวเป็นประกาย ทำให้ดูมีความสง่างามและมีความเป็นธรรมชาติ หน้าตาดุดัน ออกจะวางท่าสุขุมพอสมควร

 ลักษณะนิสัย

          เป็นสุนัขที่มีความเฉลียวฉลาด มีการตัดสินใจที่ดี รักสงบและความอิสระ ที่สำคัญเชาเชาชอบวางท่าสุขุมเป็นผู้ดี มีความสามารถในการดมกลิ่นเป็นเลิศ อารมณ์ดี รักอิสระและซื่อสัตย์มาก และชอบเล่นกับคนในครอบครัวมากกว่าคนแปลกหน้า

 การดูแล

       เรื่องของความสะอาด ผู้เลี้ยงควรหมั่นอาบน้ำให้บ่อยๆ เพราะเป็นเชาเชาเป็นสุนัขที่รักความสะอาดมาก การแปรงและหวีขนเป็นประจำเพื่อทำให้ขนดูสวยอยู่เสมอ และช่วยป้องกันไม่ให้ในบ้านไม่เต็มไปด้วยขน ที่เกิดจากการผลัดขนของสุนัข ... ในเรื่องของสุขภาพผู้เลี้ยงจะต้องมีเวลาพาเชาเชา ไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ผู้เลี้ยงยังต้องหมั่นดูและเรื่องสุขภาพผิวหนังของสุนัข เนื่องจากสุนัขเชาเชามีโรคประจำตัวคือผิวหนังอักเสบ มีน้ำเหลืองเยิ้ม กระดูกข้อต่อของช่วงขาไม่แข็งแรง และการม้วนกลับของหนังตา ทำให้ขนตากลับไปทิ่มแทงลูกตา แต่ก็สามารถแก้ไขโดยการผ่าตัด

17.ชิสุ (Shih-Tzu)

                                         

ลักษณะทั่วไป

       ชิสุเป็นสุนัขที่แข็งแรง ร่าเริง กระตือรือร้น บรรพบุรุษเป็นสุนัขของชนชั้นสูงในจีน จึงมีลักษณะสง่างาม หัวเชิด หางโค้งงอมาถึงหลัง ถึงแม้จะมีขนาดแตกต่างกันแต่โดยทั่วไปชิสุจะต้องตัวเล็กกะทัดรัด กระนั้นก็ไม่ถึงกับบอบบาง ต้องมีสุขภาพดีและมีโครงสร้างที่ได้มาตรฐาน

ลักษณะนิสัย

       ปกติชิสุจะมีนิสัย ดุ เห่าเก่งมากและดังมากดูจะเป็นสุนัขอารมณ์ศิลปินซะด้วย หลายครั้งที่พบว่ามันจะไม่เชื่อฟังเจ้าของถ้ามันไม่อยากทำซะอย่าง ขี้ประจบ ตื่นตัว รักษาสะอาด เป็นมิตร ทำให้ปรับตัวได้ดี ชิสุชอบวิ่งและรักความสนุกซึ่งเจ้าของจำเป็นจะต้องพามันออกไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง

การดูแล

      ชิสุเป็นสุนัขที่เหมาะจะเลี้ยงไว้ในบ้าน ผู้เลี้ยงควรจูงเขาเดินเล่นเป็นประจำวัน ควรอาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และเป่าขนให้แห้งทันทีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ กำจัดเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อขนของชิสุ ยาว ผู้เลี้ยงควรพาไปตัดแต่งขนและดเล็บอย่งสม่ำเสมอ ส่วนอาหารนั้นผู้เลี้ยงควรให้อาหาร 2 ครั้งต่อวัน ควรให้อาหารตรงเวลา และอาหารที่ให้ควรเป็นอาหารเม็ดมากกว่าอาหารกระป๋อง เพราะชิสุมีขนยาว หากให้กินอาหารกระป๋องจะทำให้เลอะและมีกลิ่นปากได้ด้านการดูแลสุขภาพผู้เลี้ยงควรพาชิสุไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคสุนัขบ้าและวัคซีนอื่นๆ ตามตารางที่สัตว์แพทย์ได้กำหนด และควรดูแลสุนัขอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้อยู่ในบ้านตัวเดียวนานๆ เพราะสุนัขอาจมีอาการซึมเศร้าได้

16.ชิวาวา (Chihuahua)

                                           

ลักษณะทั่วไป

       ชิวาวา เป็นสุนัขขนาดเล็ก ถือว่าตัวเล็กที่สุดในโลก!! หูมีขนาดใหญ่ ดวงตากลมโต เหมาะที่จะใช้เลี้ยงเป็นเพื่อน ชอบออกไปเดินเล่นกับเจ้าของ เห่าเสียงดัง ค่อนข้างติดเจ้าของและไม่ทำลายข้าวของ

ลักษณะนิสัย

     ชิวาวาเป็นสุนัขมีความฉลาดและจงรักภักดีต่อเจ้าของมา กเมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ โดยปกติมักเป็นสุนัขที่เงียบสงบไม่ค่อยเห่าส่งเสียงร บกวน เว้นแต่จะถูกรบกวนหรือทำตกใจจึงจะเห่าเพื่อรักษาที่อ ยู่อาศัยของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีนิสัยกล้าหาญมักจะยืนหยัดต่อสู้กับสุนัขตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กกว่า แต่ก็มีอัธยาศัยที่ดีกับสุนัขตัวอื่นหรือสัตว์เลี้ยง ชนิดอื่นๆ

การดูแล

      วงอายุที่ต้องการเอาใจใส่มากที่สุดในการเลี้ยงชิวาวาเพราะสุนัขจะตายมากที่สุดคือช่วงอายุระหว่าง 2-3 เดือน เนื่องจากวัยนี้เป็นช่วงที่สุนัขเพิ่งเริ่มอดนมใหม่ๆ ซึ่งหากลูกสุนัขกินอาหารอะไรที่ผิดไปเพียงนิดเดียว ก็จะส่งผลให้สุนัขท้องเสียได้ โดยถ้าสุนัขตัวไหนไม่มีภูมิต้านทานได้รับเชื้อก็อาจจะถึงตายได้เหมือนกัน แต่หลังจากช่วงอายุ 2-3 เดือนไปแล้ว ก็สามารถที่จะเอาใจใส่น้อยลงได้

แล้ววิธีสังเกตง่ายๆ ว่าสุนัขมีอาการผิดปกตินั้นให้สังเกตจากการที่สุนัขไม่ค่อยกินข้าวหรือกินข้าวน้อยลงก็ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าสุนัขกำลังจะไม่สบาย และส่วนการให้อาหารนั้นผู้เลี้ยงสามารถเลือกซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปที่มีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดมาให้กับสุนัขกินได้เพียงแต่เลือกให้เหมาะสมกับสุนัขเท่านั้น

ในเรื่องของการออกกำลังกาย ผู้เลี้ยงสามารถปล่อยให้ชิวาวาไปออกกำลังกายได้เองภายในสวนหรือพื้นที่จำกัด แต่ชิวาวาชอบที่จะออกไปเล่นกับเจ้าของมากกว่า

ส่วนเรื่องสุขภาพนั้นโรคที่จะเกิดขึ้นกับชิวาวาก็จะเหมือนกับสุนัขพันธุ์อื่นทั่วๆ ไป ซึ่งโรคที่พบบ่อยคือ โรคลำไส้อักเสบกับไข้หัด สาเหตุของโรคทั้งสองเป็นโรคติดต่อซึ่งหากสุนัขตัวไหนไม่มีการฉีดวัคซีนแล้วไปถูกเชื้อเข้าก็จะติดต่อได้

15.ชิบะ อินุ (Shiba Inu)

                                      

 ลักษณะทั่วไป
         ชิบะอินุเป็นสุนัขพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด เป็นสุนัขในตระกูลเดียวกันกับพันธุ์อะคิตะ (Akita) รูปร่างกระทัดรัด หูตั้ง กล้ามเนื้อกระชับ ขนสั้น 2 ชั้น มีทั้งสีดำผสมสีน้ำตาล สีแดง หรือ สีงาแดง ดวงตาสดใสและรูปริมฝีปากโค้งเหมือนกับกำลังยิ้ม ชิบะอินุ เป็นสุนัขอารมณ์ดี เป็นมิตร ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม มีอายุเฉลี่ยประมาณ 12-15 ปี แต่มีสายพันธุ์ ชิบะ ปูสุเกะ (Shiba Pusuke) ซึ่งได้รับการออกกำลังอย่างเป็นกระจำจนร่างกายแข็งแรง สามารถอยู่ได้ยืนยาวถึง 26 ปี

 ลักษณะนิสัย

        ชิบะ อินุ เป็นสุนัขที่ร่าเริงแจ่มใส คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ว่องไว ขี้เล่น ฉลาด รักอิสระซื่อสัตย์ กล้าหาญ ใจดี อ่อนโยน รักและผูกพันกับสมาชิกในครอบครัวมากๆ และเป็นมิตรที่ดีกับเด็กๆ พวกเขาเข้ากับคนแปลกหน้าและสัตว์อื่นๆ ให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างดีเยี่ยม ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่รักการเข้าสังคมมากที่สุดพันธุ์หนึ่ง แต่ด้วยสายเลือดนักล่า พวกเขาจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับหนู หรือกระต่ายเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามชิบะ อินุ มีข้อเสียก็ตรงค่อนข้างเอาแต่ใจโดยเฉพาะ ขณะฝึกวินัย บางครั้งถึงกับทำให้เจ้าของปวดหัวกับอาการดื้อของพวกเขา ดังนั้นต้องฝึกฝนพวกเขาเป็นประจำอย่างอดทน

 การดูแล

     ชิบะ อินุ เป็นสุนัขขนสั้น หนา ง่ายต่อการดูแลรักษา ผู้เลี้ยงควรแปรงขนให้เขาเป็นประจำ เพื่อแปรงเอาขนที่หลุดล่วงออก ส่วนการอาบน้ำควรอาบให้อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ซึ่งปกติแล้วพวกเขาจะถูกเลี้ยงไว้อยู่ในบ้าน จึงไม่สกปรกมาก การอาบน้ำให้แต่ละครั้งมักมีจุดประสงค์เพื่อชำละล้างชั้นขนที่หลุดล่วงตามฤดูกาล นอกจากขนที่ผู้เลี้ยงต้องดูแลแล้ว ฟันก็ควรได้รับการดูแลให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้พวกเขามีฟันไว้บดเคี้ยวอาหารให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ส่วนการดูแลช่องหู ควรใช้น้ำมัน (Baby oil) และสำลีทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อในช่องหู เป็นสาเหตุของหูอักเสบ หรือเกิดการทำลายหูชั้นใน
ในส่วนของการออกกำลังกาย ควรพาเขาออกไปเดินหรือวิ่งเล่นเป็นประจำทุกวัน แต่ควรให้ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะไม่หักโหมจนเกินไป เพราะโดยปกติแล้วชิบะ อินุเป็นสุนัขที่มีความตื่นตัวอยู่ตลอด สามารถวิ่งเล่น ออกกำลังกายด้วยตัวของมันเอง เพียงแต่การพาไปออกกำลังร่วมกับเจ้าของ เป็นเสมือนการฝึกวินัย และสร้างความผูกพันต่อเจ้าของไปด้วยในตัว

14.ชาเป่ย (Sharpei)

                                           

ลักษณะทั่วไป

        ชาเป่ยเป็นสุนัขขนาดกลาง รูปร่างคล้ายกับฮิปโปโปเตมัส ขนสั้น ลักษณะภายนอกที่เห็นแล้วระบุได้ชัดเจนว่า “เจ้าคือชาเป่ย” ก็คือหนังยับๆย่นๆ ปกคลุมบริเวณส่วนศีรษะและลำคอ แต่รอบย่นพวกนี้จะหายไปเมื่อมีอายุมากขึ้น
ลักษณะนิสัย
        ชาเป่ยเป็นสุนัขที่ฉลาดและค่อนข้างมีมาดพอสมควร ดูสุขุม นิ่งๆ ไม่ค่อยเป็นทั้งมิตรกับคนแปลกหน้าและสุนัขตัวอื่นๆ แต่มีความซื่อสัตย์กับเจ้าของสุดๆ และที่สำคัญชาเป่ยมีความสามารถในการเฝ้าบ้านเป็นอย่างมาก เชื่อฟังคำสั่งและชอบประจบเจ้าของ ไม่ชอบใช้ความรุนแรงหรือคอยหาเรื่องกับสุนัขตัวอื่น แต่จะสู้ไม่ถอยเมื่อโดนรังแก

 การดูแล

       ในเรื่องของการให้อาหารนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ผสมสีสังเคราะห์ (ไม่ใช่สีผสมอาหาร) วัตถุกันเสียและเนื้อแดง หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวโพดและถั่วเหลือง เพราะอาจทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ส่วนในเรื่องของความสะอาดนั้น สุนัขชาเป่ยเป็นสุนัขที่ต้องการความสะอาดเป็นอย่างมาก เพราะชาเป่ยมีเหงื่อเยอะต้องหมั่นอาบน้ำให้สะอาดอยู่เสมอๆ และต้องคอยดูแลเรื่องการสะสมของสิ่งสกปรกในหูที่จะทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกการที่จะเลี้ยงสุนัขชาเป่ยให้มีสุขภาพดีได้นั้น ผู้เลี้ยงจะต้องพาไปฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ดูแลเรื่องเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอค่ะ

13.ชเนาเซอร์ (Schnauzer)

                          

ลักษณะทั่วไป


        ชเนาเซอร์มีถึง 3 สายพันธุ์ คือ ไจแอนท์ ชเนาเซอร์ สแตนดาร์ดชเนาเซอร์ และ มินิชเนาเซอร์ เป็นสุนัขที่มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือ มีคิ้ว มีหนวด ดูน่าเกรงขามและดุ แต่ตรงกันข้ามเป็นสุนัขที่รักบ้าน และเจ้าของมากๆ เป็นมิตรกับคนด้วยโดยเฉพาะ
เด็กๆ

ลักษณะนิสัย

      เป็นสุนัขที่ฉลาด กระฉับกระเฉง ว่องไว สนใจและสำรวจสภาพแวดล้อมของมันอยู่เสมอ มีความรักให้กับครอบครัวผู้เลี้ยงและชอบอยู่กับคนที่สุด มีความซื่อสัตย์จงรักภักดี ไม่ก้าวร้าว มีสัญชาตญาณความปลอดภัยดี หากพบคนแปลกหน้ามันจะไม่สน ผู้เลี้ยงจึงควรแนะนำผู้มาเยี่ยมให้มันรู้จัก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับพื้นฐานการเลี้ยงจากเจ้าของ เพราะนิสัยของแต่ละตัวก็จะย่อมแตกต่างกันไป

 การดูแล

       สุนัขพันธุ์ชเนาเซอร์นั้น ไม่ค่อยมีปัญหาในการดูแลอะไรมาก เพราะเป็นสุนัขทอดทนและแข็งแรง แต่สิ่งที่ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอคือ เรื่องของความสะอาด ผู้เลี้ยงจะต้องอาบน้ำให้สุนัขอาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยแชมพูที่ใช้นั้นควรจะใช้ของสุนัข โดยเฉพาะและมีความอ่อนโยนต่อผิว ควรแปรงขนอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง อาจมีตัดขนได้บ้าง หากไม่ต้องการให้มีเยอะมากเกินไป

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559

12.แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรีย (Jack Russell Terrier)

                                     

ลักษณะทั่วไป

        เป็นนักล่าตัวเล็กๆ ที่ยอดเยี่ยม มีความว่องไวในการไล่ล่า เป็นสุนัขที่ฉลาดและเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายและปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดี

ลักษณะนิสัย

       แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรียร์ มีความเป็นนักล่าตัวเล็กๆ โดยจะไล่ล่าไปตั้งแต่ หมาจิ้งจอก จนถึงหนูตัวเล็กๆ มันจะใช้เวลาในการสำรวจพื้นที่ก่อนจะทำการไล่ล่า แจ็ครัสเซลล์ ทอร์เรียร์เป็นสุนัขที่มีความฉลาด ซึ่งเห็นได้ ชัดจากการที่สุนัขเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าของได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสนามแข่งขั


 การดูแล

       สุนัขพันธุ์แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรียร์ ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย การอาบน้ำแค่เดือนละครั้งก็ไม่ถือว่าน้อยเกินไป และปริมาณการอาบน้ำอาจจะมีเพิ่มมากขึ้น ได้ถ้าสุนัขชอบเล่นซนหรือไปคลุกกับสิ่งสกปรกต่างๆ แต่ก็ไม่ควรอาบน้ำบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหนังแห้งเนื่องจากน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติถูกชำระล้างออกไป และไม่ควรใช้แชมพูหรือสบู่ของคนเพราะไม่เหมาะกับสภาพผิวของสุนัข นอกจากนี้ยังต้องแปรงขนเพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วงออกไปสัปดาห์ละครั้งด้วย สุนัขพันธุ์นี้จะมีการผลัดขนทุกปี ซึ่งในช่วงนั้นอาจจะต้องแปรงขนหรืออาบน้ำบ่อยขึ้น

นอกจากนี้คุณผู้เลี้ยงยังต้องคอยสังเกตลักษณะของ ดวงตา ฟัน หู เท้า และเล็บอย่างสม่ำเสมอด้วย เพราะหากพบปัญหาก็จะได้รักษาตั้งแต่เบื้องต้น โดยเฉพาะในลูกสุนัข

11.เจแปนนิส สปิตซ์ (Japanese Spitz)

                                      

ลักษณะนิสัย

        มีนิสัยร่าเริง ฉลาด และขี้เล่น ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา และเชื่อฟังเจ้าของ อาจจะเห่าเก่ง เพราะมันจะมีสัญชาติญาณในการเตือนภัยให้เจ้าของเมื่อมันรู้สึกว่ามีอันตราย หรือมีคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาใกล้ มันจะทำตัวเป็นยามปกป้องบ้านอยู่เสมอเลย ตามปกติแล้วเป็นสุนัขที่ฝึกได้ง่ายครับ แต่เจ้าของจะต้องให้เวลากับมันและฝึกอย่างสม่ำเสมอ สุนัขพันธุ์นี้จะชอบเล่นเกม อย่างพวกขว้างของแล้วให้ไปเอากลับมานี่จะชอบมากเป็นพิเศษ โดยทั่วไปแล้วสุนัขพันธุ์นี้เป็นมิตรกับเด็ก และเข้ากันได้ดีกับสุนัขที่ถูกเลี้ยงอยู่ในบ้านเดียวกัน

การดูแล

       การดูแลขน นี่ควรจะได้รับการแปรงหรือหวีอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องพาไปตัดขน ตามปกติแล้วเจ้าสปิตซ์เป็นหมาที่รักสะอาดมาก อาจจะไม่ต้องอาบน้ำบ่อยนักในหน้าผลัดขน ขนของสุนัขพันธุ์นี้จะร่วงค่อนข้างเยอะ ตามลักษณะของสุนัขพันธุ์ที่มีขนสองชั้นและเป็นสุนัขในกลุ่ม Northern Breed ทั่วไป

10.เจแปนนิส ชิน (Japanese Chins)

                                     

ลักษณะทั่วไป
        เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่มีรูปร่างเล็ก ขนยาวปานกลาง มีลักษณะคล้ายสุนัขพันธุ์ชิสุ แต่ว่ามีขนบริเวณศีรษะและใบหน้าค่อนข้างสั้น สีขนทั่วไปจะเป็นสีขาวสลับสีดำ หรือ สีขาวสลับแดง อุปนิสัยค่อนข้างอ่อนไหวง่าย ฉลาด มีไหวพริบ เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่เกิดขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์สำหรับเป็นเพื่อนกับมนุษย์โดยเฉพาะ เขาจึงต้องการความรักสูง พวกเขาคล่องแคล่ว ขี้เล่น ง่ายต่อการถูกฝึกสอนให้แสดงโชว์หรือเล่นเกมต่างๆ

ลักษณะนิสัย

        เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่มีนิสัยร่าเริง สดใส ตื่นตัว ซื่อสัตย์ ว่องไว อ่อนไหว อ่อนโยน เป็นมิตร และขี้เล่น ด้วยเหตุที่พวกเขาเป็นสุนัขที่ผสมพันธุ์ขึ้นมาเพื่อเป็นเพื่อนมนุษย์และครอบครัว พวกเขาจึงค่อนข้างอ่อนไหวง่าย และต้องการความรัก การดูแลเอาใจใส่สูง ยิ่งผู้เลี้ยงดูแลและให้ความรักได้ดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรักได้มากเท่านั้น พวกเขาเข้าได้ง่ายกับคนแปลกหน้า สัตว์ตัวอื่น ปรับตัวได้ดีกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย อย่างไรก็ตาม เจแปนนิส ชิน พวกเขามีข้อเสียเล็กน้อย ตรงที่ต้องการการเอาใจใส่มากจนติดนิสัยเอาแต่ใจ ต้องการเป็นจุดสนใจ และถ้าพวกเขาไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เขาก็จะเกิดอาการอิจฉา อารมณ์ไม่ดี วิตกกังวล

 การดูแล

      เจแปนนิส ชิน มีขนยาวควรได้รับการแปรงขนประมาณ 3-4 นาทีเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ขนสวยและดูเงางามอยู่เสมอ ขนของเจแปนนิส ชินเป็นขนชั้นเดียว มีการพลัดขนปานกลาง ควรอาบน้ำให้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ใช้แชมพูที่อ่อนโยนเป็นพิเศษต่อผิว ควรหลีกเลี่ยงครีมนวด หากไม่สกปรกมากนัก การแปรงขนเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา การดูแลรักษาตาสำคัญมากสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ ควรทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน หูก็เช่นกัน เพราะอาจจะพบสัญญาณของการติดเชื้อได้ ส่วนการดูแลรักษาฟันก็ควรรักษาให้สะอาดเช่นกัน เพราะการคอยตรวจเชคและดูอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ฟันของพวกเขาอยู่ได้นานมากขึ้น นอกจากนี้ควรตรวจดูเล็บเท้า หากยาวให้ตัดบริเวณปลายเล็บออก

การออกกำลังกาย เจแปนนิส ชินต้องการการออกกำลังกายเพียงเล็กน้อย เพราะพวกเขาเป็นสุนัขที่มีพลังงานต่ำ ควรให้เขาออกกำลังกายวันเว้นวันเป็นอย่างมาก หรือ 2-3 วันต่อครั้ง พวกเขาชอบเดินมากกว่าวิ่ง ซึ่งการออกกำลังกายแต่พอดีทำให้เขารู้สึกพึงพอใจและมีความสุข แต่ต้องระวังสุนัขตัวอื่นพยายามเข้ามาจู่โจม หรือเข้ามาเล่นด้วยความรุนแรงเพราะจะทำให้พวกเขาตกใจ

09.เครนเทอร์เรีย (Cairn Terrier)

                                   

ลักษณะทั่วไป

       เครนเทอร์เรียเป็นสุนัขสายพันธุ์เทอร์เรียขาสั้น แต่รูปร่างมั่นคง แข็งเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ยืนเอียงไปทางด้านหน้า อกลึก ความยาวช่วงหลังกำลังพอดี ศีรษะสั้นกว่าสุนัขพันธุ์เทอร์เรียทั่วๆไป ขนหนา ทนต่อสภาพอากาศได้ทั้งร้อนและหนาว หน้าตามีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอก เป็นสุนัขที่ตื่นตัว แอคทีฟ เป็นมิตร เชื่อฟังคำสั่งได้ดี ช่วงอายุประมาณ 12- 15ปี
 ลักษณะนิสัย
        เครนเทอร์เรีย เป็นสุนัขพลังงานสูง ร่าเริง อยู่ไม่สนุข ฉลาดหลักแหลม ซื่อสัตย์จงรักภักดี ปกป้องครอบครัว จนบางครั้งมักลืมไปว่าตัวเองเป็นเพียงสุนัขตัวเล็กๆ โดยธรรมชาติของสายพันธุ์เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เขาอาจจะก้าวร้าวหรือดุเมื่อเจอคนแปลหน้า สุนัขหรือสัตว์ตัวอื่นๆ และออกจะขี้หวง ไม่ว่าจะอาหาร สิ่งของ หรือของเล่น พวกเขา เป็นเพื่อนเล่นที่ดีมกับเด็กๆ แต่พวกเขาไม่ค่อยชอบปล่อยทิ้งให้อยู่คนเดียว อาจทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว ทำลายข้าวของได้ หรือขุดดิน หรือเห่าไม่หยุด ควรได้รับการฝึกวินัยในเชิงบวก ซึ่งจะช่วยให้สภาพกายและใจของเขาดีขึ้น พวกเขาเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้ง่าย ของรางวัลและความรักจะช่วยให้การเรียนรู้ รวมทั้งการทำงานของเขามีประสิทธิภาพ การลงโทษขณะฝึกวินัยจะเป็นการทำร้ายจิตใจของเขามากๆ เพราะเขาเป็นสุนัขที่อ่อนไหวง่าย ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นเสียง หรือใช้ความรุนแรง อาจจะทำให้เขาเกิดความเครียด และเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวตามมา
การดูแล
      เครนเทอร์เรียเป็นสุนัขที่ต้องการการดูแลเพียงระดับพื้นฐาน ไม่จำเป็นต้องเข้าร้านกรูมมิ่งเสริมสวย พวกเขาต้องการเพียงการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากขนชั้นในมีแนวโน้มพันกันเป็นสังกะตัง ซึ่งอาจก่อนให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังอักเสบ และติดเชื้อ การอาบน้ำควรอาบน้ำประมาณ 2-3 สัปดาห์เป็นอย่างมาก ไม่ควรอาบบ่อยกว่านี้ เพราะจะทำให้น้ำมันที่อยู่บนขนของน้องหมาถูกชะไปกับน้ำ อาจทำให้ผิวหนังแห้ง และทำลายเส้นขนได้ ควรเลือกดูแชมพูที่มีอ่อนโยนโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้แชมพูของคนเป็นอันขาด นอกจากนี้ควรดูแลขนรอบๆ หูและดวงตาอย่างเป็นประจำ คอยเล็มขนที่แทงเข้าไปในดวงตา และทำความสะอาดภายในหูเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ส่วนการออกกำลังกาย ถึงแม้เขาจะสามารถอยู่ในพื้นที่เล็กๆได้ดี ก็ยังต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่เช่นนั้นเขาอาจเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ ถ้าไม่เสนอกิจกรรมให้เขาทำ หรือพาเขาไปวิ่งเล่น พวกเขาชอบเล่นวิ่งไล่ลูกบอลที่สนามหญ้าร่วมกับครอบครัว หรือแค่เดินเล่นๆ เขาก็รู้สึกดี ไม่ควรให้เขากระโดด เพราะอาจทำให้เกิดโรคสะบ้าเคลื่อนได้ ควรให้เขาออกกำลังกายแต่พอเหมาะพอดี


08.เคน คอร์โซ่ (Cane Corso)

                                   

ลักษณะทั่วไป

        เคน คอร์โซ่เป็น 1 ใน 2 สายพันธุ์ อิตาเลียน มาสทิฟฟ์ มีรูปร่างใหญ่ มั่นคง กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง แลดูสง่างาม ทรงพลัง เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว สง่างาม ขนสั้น กระด้าง เรียวตัวหนาแน่น ป้องกันน้ำได้ดี สีขนมีได้ทั้งสีดำ สีเทา สีน้ำตาลเหลือง สีแดง หรือจนที่เป็นลักษณะคล้ายลายเสือ เป็นต้น
 ลักษณะนิสัย
         เคน คอร์โซ่ เป็นสุนัขที่ฉลาดหลักแหลม ง่ายต่อการฝึกวินัยและการเชื่อฟังคำสั่ง พวกเขาซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก กระตือรือร้น เฝ้าบ้านได้ดี มีความกล้าหาญและจิตวิญญาณของสุนัขผู้พิทักษ์ ตอบสนองต่อบุคคล หรือสัตว์ที่เพิ่งพบเห็นไม่ดีเท่าไหร่ เจ้าของจึงไม่ควรกระตุ้นให้พวกเขาหวาดระแวงตามสัญชาตญาณผู้ปกป้อง จนแสดงอาการก้าวร้าวออกมา อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พวกเขาจะดูกล้าหาญ เข้มแข็ง แต่เขาก็ต้องการความรัก ความเอาใจใส่จากครอบครัวสูง เป็นมิตรเด็กๆ สุภาพ อ่อนโยน และเป็นเพื่อนที่ดี

 การดูแล
       เคน คอร์โซ่ มีขนสั้น หนา ควรได้รับการแปรงขนเป็นประจำอย่างน้อยที่สุดทุกสัปดาห์ เพื่อพลัดขนเก่าและ นวดผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพขนดีและเงางาม ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกสัปดาห์ ควรอาบประมาณ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุด 1 เดือนต่อครั้ง หูของพวกเขาควรได้รับการดูแลทำความสะอาดเป็นพิเศษเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพื่อป้องกันสาเหตุการติดเชื้อในหู ในส่วนการออกกำลังกาย เคน คอร์โซ่ มีพละกำลัง รักการผจญภัย และมีพลังงานสูง จึงต้องพาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน พวกเขาสามารถวิ่งจ้อกกิ้งและปีนเขาระยะไกลได้ ซึ่งจริงๆ แล้วพวกเขาเป็นสุนัขที่ต้องการบ้านที่มีสนามหญ้ากว้าง มีรั้วรอบขอบชิด

07.คีชอน (Keeshounds )

                                            


ลักษณะทั่วไป
        คีชอนเป็นสุนัขขนาดปานกลาง ดูแข็งแกร่ง เด็ดเดี่ยว สมกับเป็นสุนัขสายพันธุ์ทางเหนือ มีความคล้ายคลึงกับสุนัขจิ้งจอก ขนฟู หนา หางยกสูงขึ้นพาดบนหลัง สีขนผสมกันระหว่างสีเทา สีดำ และสีครีม ทั้งเชดสีอ่อนและเข้ม สีดำแต้มบริเวณหู กระบอกปาก และเส้นตรงจากหางตาถึงโคนหู ช่วงอายุอยู่ระหว่าง 12-15 ปี

 ลักษณะนิสัย

        คีชอนเป็นสุนัขนิสัยร่าเริง ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม บุคลิกภาพดี เป็นมิตร ต้องการความรักสูง ชอบอยู่กับครอบครัว เข้ากับเด็กๆ ได้ดี ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่เหมาะกับการเลี้ยงไว้ให้อยู่ร่วมกับครอบครัว เข้ากับเด็กๆ ได้ดีมากกว่าผู้ใหญ่ พวกเขาชอบออกไปเดินเล่นนอกบ้าน และด้วยสัญชาตญาณของสุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อเฝ้ายามได้อย่างดีเยี่ยม พวกเขาจึงค่อนข้างไวต่อเสียง จะเห่าเมื่อได้ยินเสียงที่ผิดปกติ เพื่อให้เจ้าของรับรู้ แต่ค่อนข้างตื่นตกใจกับสิ่งต่างๆ ได้ง่าย แล้วเมื่อใดที่พวกเขาตื่นเต้นก็จะวิ่งวนไปวนมารอบตัวเองเป็นวงกลม คีชอนบางตัวอาจจะชอบเก็บตัว ดังนั้นถ้าพวกเขามีแนวโน้มขี้ขลาด หรือไม่มั่นใจในตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก ให้พาเขาออกไปเดินเล่น เจอผู้คน หรือสุนัข สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ให้เคยชิน เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว สัญชาตญาณนักเตือนภัย คอยระแวดระวังจะเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้เขากลายเป็นสุนัขที่ไม่ไว้ใจใคร ดุร้าย ข่มขู่ และกัดผู้อื่น

 การดูแล

      คีชอนเป็นสุนัขขน 2 ชั้นที่ยาวหนา จึงต้องดูแลมากเป็นพิเศษ ต้องแปรงขนให้เขาเป็นประจำเพื่อไม่ให้เกิดขนสังกะตัง และผลัดขนที่ตายแล้ว เวลาแปรงขนต้องแปรงตั้งแต่โคนขนที่ติดกับบริเวณผิวหนัง ถ้าเวลาแปรงขนไม่เห็นผิวหนังของเขา ถือว่ายังแปรงผิดวิธี ซึ่งก่อนอาบน้ำควรแปรงขนก่อนทุกครั้ง การอาบน้ำควรอาบให้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง เวลาอาบไม่ควรให้น้ำเข้าหูหรือตา และไม่ควรใช้ยาสระผมของคนเพราะผิวหนังของเขาอาจจะเกิดอาการระคายเคืองได้ เนื่องจากขนที่หนามาก ผู้เลี้ยงต้องล้างแชมพูให้หมด อย่าให้เหลือทิ้งไว้ที่ขน เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนังเขาได้อีกเช่นกัน ส่วนการไดร์ขนไม่ควรใช้ความร้อนสูงและควรเป่าให้แห้งสนิท ไม่เช่นนั้นความชื้นที่ขน หรือผิวหนังที่ยังอยู่อาจทำให้เกิดผื่นหรือเชื้อราได้ นอกจากขนที่ต้องดูแลรักษาแล้ว หูก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ต้องทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อในช่องหู

คีชอนต้องการการออกกำลังเป็นประจำทุกวัน ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะตื่นตัวมากเวลาอยู่ในบ้าน จึงจำเป็นต้องพาออกไปเผาผลาญพลังงาน หรือสร้างกิจกรรมให้เขาได้ใช้กำลังหรือร่างกายอย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน หรือวิ่งเล่นก็ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจ โดยเฉพาะการได้เดินเล่นร่วมกับคนในครอบครัว นอกจากนี้คีชอนเป็นสุนัขที่น้ำหนักขึ้นง่ายมาก ผู้เลี้ยงจะต้องดูแลควบคุมปริมาณอาหารประกอบกับการพาไปออกกำลังกายป้องกันน้ำหนักเกิน อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นสุนัขขนยาวและหนา ไม่สามารถทนทานได้กับอากาศร้อน เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องความร้อนภายในร่างกายขณะออกกำลังกาย ไม่ให้เขารู้สึกร้อนจากการเผาผลาญพลังงานจนเกิดไปจนเกิดอาการชักได้


06.คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล (Cavalier King Charles Spaniel)

                                     

ลักษณะทั่วไป
         คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลเป็นสุนัขพันธุ์ตุ๊กตา ตัวเล็กแต่มีความสง่างาม เหมาะทั้งกับชีวิตในเมืองและชีวิตในชนบท เชื่อฟังเจ้าของ ฝึกง่าย คล่องแคล่วว่องไว เป็นสุนัขที่เหมาะกับการนำไปใช้ในการบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ขนนุ่มยาวเส้นเล็กราวแพรไหม มีทั้งหมด 4 สี คือ สีน้ำตาลเชสนัทปนสีขาว(Blenheim) สีดำปนสีขาวและสีน้ำตาลแทน (Tricolor) สีแดงเข้ม (Ruby) สีดำและสีน้ำตาลแทน อายุโดยเฉลี่ยประมาณ 10-15 ปี
ลักษณะนิสัย
        คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลมีจิตใจดี เป็นมิตร อ่อนหวาน อ่อนโยน ร่าเริงไม่เขินอาย ไม่ก้าวร้าว ฝึกง่าย เป็นสุนัขที่เติบโตมากับเด็กๆ และเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ชอบเดินออกกำลังกาย หรือไม่ก็นั่งเล่น นอนเล่น

 การดูแล

        คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลอยู่ได้ดีทั้งพื้นที่กว้าง และพื้นที่แคบอย่างเช่น อพาร์ตเม้นต์ พวกเขาสามารถวิ่งเล่นออกกำลังกายได้เองภายในตัวบ้าน หรือสนามหญ้าหน้าบ้าน ซึ่งการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลคือการพาพวกเขาเดินเล่นรอบๆ บ้านประมาณ 10 -15 นาทีเป็นประจำ ในส่วนการดูแลทำความสะอาด ควรแปรงขนเป็นประจำ อย่างน้อยที่สุด 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะก่อนอาบน้ำ เพื่อไม่ให้ขนติดเป็นสังกะตัง การทำความสะอาดควรอาบน้ำ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง และควรตรวจเชคดูแลความสะอาดช่องหูและรอบดวงตาด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น หมาดๆ ทุกครั้งหลังอาบน้ำ

05.คอเคเซียน เชพเพิร์ด (Caucasian Shepherd)


ลักษณะทั่วไป
        คอเคเชพเพิร์ดมีรูปร่างสูงใหญ่ยักษ์ กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง ขนหนา มีสีดำคาดเป็นหน้ากากเสมอๆ ขนมี 2 แบบคือ แบบยาวและสั้น ซึ่งจะเป็นลักษณะขนของคอเคเซียน เชพเพิร์ด ทางสายพันธุ์จอร์เจียน และอาร์เมเนียน คอเคเซียน เชพเพิร์ดมีอายุเฉลี่ยประมาณ 10-14 ปี
ลักษณะนิสัย
        คอเคเซียน เชพเพิร์ดเป็นสุนัขที่ฉลาด มีไหวพริบ กล้าหาญ ซื่อสัตย์ แต่บางครั้งก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูง รักอิสระ ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่ง ก้าวร้าวในบางครั้ง จึงควรได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม พาออกไปมีสังคมบ้าง ไม่ควรให้เขาอยู่แต่ในบ้านหรือพื้นที่แคบยาวนานเกินไปจนเกิดความเครียด นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสุนัขที่พลังงานต่ำ ชอบอยู่เฉยๆ แต่ก็หูไวตาไวรู้สึกไว ยิ่งถ้าครอบครัวกำลังถูกข่มขู่คุมคาม เขาก็จะลุกขึ้นมาปกป้องทันที

การดูแล

       คอเคเซียน เชพเพิร์ดมีขน 2 ชนิดคือ ขนสั้นและ ขนยาว หากเป็นชนิดขนยาวควรได้รับการแปรงขนเป็นประจำเพื่อป้องกันขนพันกัน ส่วนขนสั้นอาจดูแลน้อยลง แต่ก็ยังคงต้องแปรงเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน




วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559

04.คอลลี่ (Collie)


ลักษณะทั่วไป

        คอลลี่เป็นสุนัขที่ร่าเริง แข็งแรง กระตือรืนร้นต่อสิ่งรอบข้าง เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วและยืดหยุ่นดี ไม่งุ่มง่าม ยืนตัวตรงและมั่นคง อกลึกและกว้างแสดงความแข็งแรง ไหล่ลาดเอียงและข้อเท้าที่โค้งพอดีแสดงความเร็วในการวิ่ง ใบหน้าของคอลลี่นั้นแสดงความฉลาดเฉลียว ลำตัวส่วนหน้าและส่วนหลังสมดุลกัน อวัยวะทุกส่วนได้สัดส่วนและประสานกันเป็นรูปร่างที่สวยงามลงตัว

ลักษณะนิสัย

       สุนัขคอลลี่เป็นสุนัจที่ชาญฉลาดมาก และชอบที่จะสุงสิงกับคน เพราะฉะนั้นการฝึกสุนัขพันธุ์คอลลี่นี้ จึง ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ไม่ควรอย่างยิ่ง ที่จะทิ้งให้อยู่หลังบ้านตามลำพังเพราะเขาจะรู้สึกขาดความรัก และรู้สึกถูกทอดทิ้งซึ่งจะทำให้เขาซึมเศร้าไป สุนัขพันธุ์นี้รักความสะอาดและเหมาะจะเป็นเพื่อนที่ดีกับเด็กๆ สุนัขคอลลี่ชอบอยู่ร่วมกับสุนัขตัวอื่นๆ โดยเฉพาะถ้าเป็นเพศตรงข้าม และถ้าหากผู้เลี้ยงมีสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ ต้องเข้าใจว่าสัญชาตญาณของสุนัขเฝ้าแกะ สัตว์ตัวเล็กๆ ที่เหมือนจะชอบวิ่งหนีก็จะถูกต้อนไปยังที่ใดที่หนึ่งซึ่งเขาได้เล็งไว้

การดูแล

      สุนัขคอลลี่มีขนยาวสวย และต้องได้รับการแปรงขนทุกอาทิตย์เพื่อให้ขนสวยงามอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าสุนัขคอลลี่จะไม่แสดงอาการกระตือรือร้นขอให้ผู้เลี้ยงพาออกไปเดินเล่น แต่ถ้าได้ไปสุนัขจะเพลิดเพลิน และอารมณ์ดี สุนัขพันธุ์นี้มีความฉลาดและยังตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถ มีพรสวรรค์ในการตามรอยและต้อนฝูงสัตว์ เพราะฉะนั้นสุนัขอาจจะอดใจไม่อยู่ เผลอไล่ต้อนสิ่งที่มาเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆ ตัว ผู้เลี้ยงจะต้องพยายามสอนให้สุนัขเข้าใจ ว่าไม่ควรทำพฤติกรรมแบบนั้น 

03.โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)



 ลักษณะทั่วไป

        โกลเด้นฯเป็นสุนัขที่มีขนาดปานกลาง ไม่เทอะทะเก้งก้างจนดูเกะกะ เป็นสุนัขที่มีนิสัยค่อนข้างจะเป็นมิตรกับทุกๆ และสุนัขที่มีความปราดเปรียวและอดทน ลีลาในการย่างก้าวหรือไหวเป็นไปด้วยความนิ่มนวล

ลักษณะนิสัย

       นิสัยสุภาพ น่ารัก มีเสน่ห์ ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ และเสียสละรักเจ้าของได้เท่ากับสุนัขพันธุ์ โกลเด้นฯนี้ ลักษณะนิสัยสุนัขพันธุ์นี้ใจดี ชอบอยู่กับคนและสัตว์อื่น มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ค่อนข้างติดคนหรืออยากให้เจ้าของสนใจ โกลเด้นฯ เป็นสุนัขที่ฝึกง่าย มันชอบเห่าเมื่อมีคนอยู่หน้าประตูบ้าน แต่มีบ่อยครั้งที่การเห่านั้นเป็นการแสดงการทักทายมิใช่การขู่

การดูแล

       โกลเด้นฯ เป็นสุนัขที่มีขนร่วงมาก จำเป็นจะต้องแปรงและหวีขนให้มันสัปดาห์ละหลายๆ ครั้ง เพื่อป้องกันขนพันกัน การแปรงขนบ่อยๆ จะทำให้โกลเด้นฯ ดูสวยได้ ผู้เลี้ยงควรดูแลเรื่องเห็บ หมัด การระคายเคืองที่ผิวหนัง ขณะที่ทำการแปรงขน









02.เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก - Greater Swiss Mountain Dogs




 ลักษณะทั่วไป
         ตัวใหญ่ แข็งแรง กำยำ มั่นคง ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มั่นใจ เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เดิมเลี้ยงไว้เพื่อต้อนแกะ ทำงานบนภูเขา จึงมีกระดูกค่อนข้างใหญ่แข็งแกร่ง ขนสีดำ มีสีสนิมแทรมสมมาตรกันระหว่างลำตัวทั้งสองด้าน และแต้มด้วยสีขาว โดยเฉพาะบริเวณอก มีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 8-12 ปี

 ลักษณะนิสัย

         เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เป็นสุนัขเฝ้ายามที่ดีเยี่ยม สามารถพิทักษ์ครอบครัวและทรัพย์สินได้ พวกเขาจะเห่าคนแปลกหน้าและผู้บุกรุก เพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าของได้ยิน แต่ไม่ก้าวร้าว หรือทำร้ายใคร เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เป็นสุนัขที่เหมาะสำหรับเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัวทั้งสามารถดูแลและเป็นเพื่อนได้ พวกเขาเป็นมิตรกับเด็กๆ รักที่จะมีส่วนร่วมและอยู่รวมกับครอบครัว ส่วนลูกสุนัขเกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก จะน่ารัก และเป็นมิตรมากเป็นพิเศษ แต่ก็ค่อนข้างซน ควบคุมยาก ชอบวิ่ง ชอบกระโดด วิ่งวุ่น วนไปวนมา แถมยังชอบ เห่าและกัดแทะสิ่งของอีกด้วย พวกเขาจะขี้เบื่อง่าย ถ้าต้องถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวแล้วก็เริ่มซนทำลายข้าวของ เรียกร้องความสนใจ ควรจะฝึกวินัยตั้งแต่เด็ก แล้วด้วยสัญชาตญาณเก่าเฝ้าระวังภัยที่มีอยู่ในสายเลือด เขาจึงเห่าทุกอย่างที่แปลกปลอมทั้งคนและเสียง ดังนั้นเขาควรได้รับการฝึกเพื่อไม่ให้เห่าพร่ำเพรื่อ สอนให้เขาออกสังคม อยู่ร่วมกับสัตว์ตัวอื่นๆ พบปะคนแปลกหน้าเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ว่าคนไหนคือคนที่ดี และคนไหนคือคนที่ไม่ดี

 การดูแล

      เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เป็นสุนัขที่พลัดขนปานกลาง แต่จะพลัดขนเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่างรอยต่อของฤดูพลัดขนทั้ง 2 ฤดู ควรพลัดขนทุกๆ สัปดาห์ โดยเฉพาะช่วงฤดูพลัดขน ส่วนการอาบน้ำควรอาบน้ำให้ 2-4 สัปดาห์ต่อครั้ง ควรใช้แชมพูสุนัขโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้แชมพูคน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ และควรแปรงขนก่อนอาบน้ำ เพื่อพลัดขนที่ตายแล้วให้หลุดออกไป
สำหรับการออกกำลังกาย เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก ต้องการการออกกำลังกายปานกลาง ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ควรพาออกไปเดิน หรือวิ่งเล่นเป็นประจำทุกวันอย่างเพียงพอ หรือจะหากิจกรรมให้เล่น เช่น ดึงลากรถเข็น หรือลากเลื่อน เป็นต้น ยิ่งเขาได้ออกกำลังกายเขาก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นๆ ยิ่งถ้าเป็นลุกสุนัขพลังงานสูง ซนไม่หยุด ควรพาเขาไปออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้เขาได้ปลดปล่อยพลังงาน อย่างไรก็ตาม ไม่ควรให้เขาออกกำลังอย่างหักโหม เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการฮีตสโตรกได้เมื่อเหนื่อยหรืออากาศร้อนจัดจนเกินไป เพราะโดยสายพันธุ์แล้วพวกเขาเหมาะที่จะเลี้ยงอากาศหนาว

01.เกรทเดน (Great Dane)


ลักษณะทั่วไป

       สุนัขสายพันธุ์เกรทเดนนั้น มีความสง่าผ่าเผย มัดกล้ามสมส่วนดูหน้าเกรงขาม เกรทเดนถึงแม้จะดูตัวใหญ่น่าเกรงขามแต่มันไม่มีนิสัยก้ารร้าว บางครั้งมันมักจะมีอุปนิสัยดื้อและซน เกรทเดนจัดได้ว่าเป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ มีความซื่อสัตย์และมีความจงรักภักดีต่อ และที่สำคัญเกรทเดนชอบที่จะได้รับความรักและความอบอุ่นจากผู้เป็นเจ้าของเสมอความเป็นมา
เกรทเดนสุนัขสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศ เยอรมนี สุนัขพันธุ์เกรทเดนเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง มีความสามารถเฉพาะตัวสูง ชาวเยอรมันได้พัฒนาสุนัขพันธุ์นี้ขึ้นมาเพื่อล่าหมูป่า แต่ในปัจจุบันเกรทเดนได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้น

ลักษณะนิสัย

       เกรทเดนเป็นสุนัขที่ขี้ประจบ เป็นมิตร เงียบๆ และสุภาพกับเด็กๆที่ปฏิบัติต่อมันอย่างนิ่มนวล หากมีคนมาหาจะส่งเสียงเห่าดังๆ บอกเจ้าของให้รู้ แต่ไม่ก้าวร้าวหรือกัด

การดูแล

      เกรทเดน เป็นสุนัขขนสั้น เรียบเป็นมันเงางาม ควรแปรงขนให้สุนัขเกรทเดนทุกสัปดาห์เป็นประจำ 5-10 นาที ก็เพียงพอ เพราะเป็นสุนัขที่มีขนชั้นเดียว ดังนั้นในขณะที่ขนตายกำลังร่วงขนใหม่ก็จะขึ้นมาทดแทนทันที ทั้งนี้ผู้เลี้ยงควรหาเวลาออกกำลังกายให้มันอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่าลืมคำนึงถึงพื้นที่ของบ้านของคุณด้วย ส่วนเรื่องของการออกกำลังกาย เกรทเดนเป็นสุนัขที่แข็งแรง อยากรู้อยากเห็นตามสัญชาติญาณของสุนัขล่าเนื้อ จึงควรให้เกรทเดนได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อที่เขาจะได้ไม่อ้วนและไม่เครียด